วันศุกร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

- ใบอ่อน เมื่อเทียบกับเนื้อฟักทองซึ่งมีวิตามินเอสูงแล้ว ใบอ่อนจะมีแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูงกว่าเนื้อฟักทองด้วย

- ดอก มีวิตามินเอ ฟอสฟอรัส แคลเซียม และมีวิตามินซีเล็กน้อย

- เนื้อฟักทอง อุดมไปด้วย แคลเซียม วิตามินซี ฟอสฟอรัส วิตามินเอสูง ที่สำคัญมี เบต้าแคโรทีน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระในเนื้อสีเหลืองๆ ของฟักทอง ช่วยลดการเกิดมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคหัวใจได้ แถมยังช่วยชะลอความแก่เพราะช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหน้ง ทำให้ผิวพรรณมีน้ำมีนวล ป้องกันโรคผิวหนัง และยังบรรเทาอาการปวดข้อเข่า บั้นเอวได้อย่างดียิ่ง

- เยื่อกลางผลฟักทอง นำไปพอกแผล แก้อาการฟกช้ำ อักเสบหรือปวดได้

- เปลือกฟักทอง ป้องกันการเกิดเบาหวาน เพราะจะช่วยกระตุ้นการหลั่งอินซูลินในร่างกาย ซึ่งสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ อีกทั้งยังช่วยบำรุงตับ ไต ดวงตาอีกด้วย

- เมล็ด มีสารที่ชื่อว่า คิวเคอร์บิติน (cucurbitine) ช่วยฆ่าพยาธิตัวตืดได้ดี แถมยังช่วยขับปัสสาวะ ป้องกันมะเร็งกระเพาะปัสสาวะและนิ่ว นอกจากนี้ น้ำมันที่ได้จากเมล็ดของฟักทอง ช่วยบำรุงประสาทได้ และยังมีกรดอะมิโนบางชนิดที่ช่วยป้องกันไม่ให้ต่อมลูกหมากของผู้ชายขยายใหญ่ขึ้น และช่วยปรับฮอร์โมนเพศชายให้อยู่ในระดับปกติ

ผักเพื่อสุขภาพ
สังขยาฟักทอง

อาหารเพื่อสุขภาพ


วิดีโอ3



น.ส.ยุพารัตน์ หนูกลับ

วิดีโอ2

วีดีโอ1


 

เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ : ยำเห็ดห้าสหาย

 เป็นอาหารที่มีคอเลสเตอรอลน้อย

รสชาติอร่อย และยังไขมันต่ำอีกด้วย





ส่วนผสม : เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ : ยำเห็ดห้าสหาย

กุ้งสด 3 ขีด
เห็ดฟางผ่าสี่ 1 ขีด
เห็ดหอมสดผ่าสี่ 1 ขีด
เห็ดนางฟ้าฉีกตามยาว 1 ขีด
เห็ดหูหนูขาวแช่น้ำพอนิ่ม 1 ขีด
เห็ดหูหนูสด หั่นเป็นชิ้นๆ 1 ขีด
หอมใหญ่หั่นตามยาว 1/2 ถ้วย
ขึ้นฉ่ายตัดเป็นท่อนๆ 1/4 ถ้วย
น้ำมะนาว 1/2 ถ้วย
น้ำปลา 1/2 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูหั่น 1 ช้อนโต๊ะ
ผักชี ใบสะระแหน่เด็ดเป็นช่อๆ 1/4 ถ้วย

วิธีทำอาหาร

1. แช่กุ้งในน้ำและล้างให้สะอาด ผ่าหลังกุ้งและปอกเปลือก นำกุ้งไปลวกในน้ำเดือดจากสุกเป็นสีส้ม หลังจากนั้นน้ำเห็ดที่ล้างแล้วมาลวกโดยการลวกทีละอย่าง เห็ดหูหนูขาวใช้เวลาในการลวกไม่นาน เมื่อลวกเห็ดเสร็จ ก็ทำน้ำของยำ การผสมน้ำตาล พริกขี้หนู น้ำมะนาว น้ำปลา คลุกเคล้าจนเข้ากัน ชิมรสชาติและปรุงรสตามชอบ
  
2. นำเห็ดที่ลวกแล้วทั้งหมด มาคลุกกับผักขึ้นฉ่าย กุ้งที่ลวกแล้ว และหอมใหญ่ซอย ตามด้วยราดน้ำยำ โรยหน้าด้วยใบสาระแหน่กับผักชีก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย....
เมนูนี้มีวิตามินและแร่ธาตุต่างๆมากมายโดยที่เกลือโซเดียมน้อย และเห็ดแต่ละชนิดมีสรรพคุณต่างๆที่มีประโยชน์ต่อร่างๆกาย เช่น เห็ดหอมมีสรรพคุณช่วยลดไขมันในเส้นเลือด เพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ต่อต้านไวรัสและมะเร็ง เห็ดหูหนู ช่วยป้องกันการเกิดโรคกระเพาะ ช่วยระบบขับถ่ายดีขึ้น ป้องกันริดสีดวง เห็ดหูหนูขาว เสริมสร้างปอดให้แข็งแรงและมีผลดีกับไต เห็ดฟาง มีวิตามินเคช่วยสมานแผลและรักษาสมดุลความดันโลหิต เห็ดเหล่านี้มีประโยชน์มากมาย และยังรสชาติดีอีกด้วย

 
ผลวิจัยล่าสุดจากมหาบัณฑิต สาขาพิษวิทยาทางอาหารและโภชนาการ สถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่า 22 ตำรับอาหารไทยช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงมะเร็งได้ และ  “น้ำพริกกุ้งสด”  ก็เป็น 1 ในเมนูอาหารที่สามารถต้านมะเร็งได้ค่ะ
 
เครื่องปรุงน้ำพริกกุ้งสด
  1. กุ้งขนาดกลาง 8-10 ตัว (ล้างทำความสะอาด, แกะเปลือกและหั่นหยาบ)
  2. กระเทียมปอกเปลือก 1 ช้อนชา
  3. หอมแดง 3 ลูก
  4.  มะเขือพวง 20 กรัม
  5. กะปิ 1 ช้อนชา
  6. พริกขี้หนู 3-5 เม็ด (ปรับเพิ่ม/ลด ตามความชอบ)
  7. น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
  8. น้ำปลา 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
  9. น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
  10. ไข่ต้ม, ผักสดหรือผักนึ่งสำหรับทานกับน้ำพริก (ถั่วฝักยาว, กะหล่ำปลี, แตงกวา, อื่นๆ)
วิธีทำน้ำพริกกุ้งสด
  • 1. นำกุ้งไปลวกในน้ำเดือดจนสุก นำออกมาสะเด็ดน้ำ พักไว้
  • 2. นำพริกขี้หนู, หอมแดงและกระเทียมไปคั่วในกระทะจนหอม จากนั้นจึงนำไปตำในครกพร้อมกะปิ จนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันเป็นเนื้อเดียว
  • 3. ปรุงรสด้วยน้ำตาล, น้ำปลา และน้ำมะนาว จากนั้นจึงเติมเนื้อกุ้งและมะเขือพวงลงไป ตำให้ส่วนผสมเข้ากัน (ระวังอย่าให้เนื้อกุ้งเละ จะไม่น่าทาน)
  • 4. ตักน้ำพริกใส่ถ้วย เสริฟพร้อมผักสด (หรือผักนึ่ง), ไข่ต้มและข้าวสวยร้อนๆ

วันพฤหัสบดีที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

         สูตรอาหารง่ายๆที่ท่านสามารถทำได้เองที่บ้าน แม้จะอยู่ในช่วงลดน้ำหนักท่านก็สามารถรับประทานได้เต็มที่เพราะว่าปลากระพงขาวเป็นอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำ

เครื่องปรุงที่ใช้

เนื้อปลากะพงขาว น้ำหนัก 70 กรัม 2 ชิ้น
กระเทียมซอย 2 ช้อนโต๊ะ ช่วยเพิ่มรสชาตและความหอม
ตะไคร้ซอย 3 ช้อนโต๊ะ
ใบมะกรูดซอย 1 ช้อนโต๊ะ
รากผักชีหั่น 1 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยดำ 1 ช้อนชา นี่คือสูตรลับที่จะทำให้อาหารมีรสชาติไม่เหมือนใคร
สะระแหน่ เด็ดเป็นช่อ 2 ช่อ
เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา สามารถใช้น้ำตาลเทียมได้สำหรับผู้เป็นโรคเบาหวาน
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ

 

เมนูอาหารไขมันต่ำรสแซ่บ : พล่าปลากระพงขาว

ขั้นตอนการอาหาร

1. ล้างเนื้อปลาให้สะอาด วางไว้บนตะแกรงให้แห้ง ช่วงรอ เราก็ไปโขลกรากผักชี พริกไทยดำ และเกลือเข้าด้วยกัน
2. นำเนื้อปลาที่แห้งแล้วใส่ถ้วยและคลุกเคล้ากับเครื่องปรุงที่ทำมาในข้อ 1 คลุกจนเข้ากัน และหมัก 30 นาที จัดวางใส่จาน นำไปนึ่ง ใช้ไฟแรงในการนึ่ง และนึ่งจนสุก ( ประมาณ 15 นาที )
3. ผสมพริกขี้หนู กระเทียม ตะไคร้ ใบมะกรูด คลุกเข้าเข้ากัน ค่อยผสม น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาล เข้าด้วยกันในระหว่างการคลุก
เมื่อทำเสร็จราดบนเนื้อปลานึ่ง ปิดท้ายด้วยการโรยสะระแหน่ เพิ่มความหอม...เพียงแค่นี้ท่านก็ได้เมนูอาหารสุดวิเศษพร้อมเสริฟแล้วล่ะครับ